ทุกวันนี้มีการเปิดตัวโปรเจกต์ NFT ขึ้นมาหลายพันโปรเจกต์ทำให้นักลงทุน, นักสะสมงานศิลปะดิจิทัล และผู้ที่ชื่นชอบ NFT ต่างก็เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการนี้เพื่อให้ได้รับสิ่งจูงใจทางการเงินในด้านต่าง ๆ บนโลกของ Metaverse มากขึ้น ซึ่งหนึ่งในโปรเจกต์ที่โดดเด่นไม่แพ้ใครเลยก็คือ “CryptoDragons” โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักฟุตบอลชื่อดังชาวฝรั่งเศส ‘Paul Pogba’ นักเตะของสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก็ได้ประกาศความร่วมมือกับเกมนี้บน Instagram ของเขาพร้อมเขียนแคปชั่นว่า “Father of Dragons is here”
ทำความรู้จักกับ CryptoDragons
CryptoDragons เป็นโปรเจกต์เกมมังกร Metaverse ที่ใช้บล็อคเชนและสร้างขึ้นบนเครือข่าย Ethereum ผู้เล่นจึงสามารถรวบรวมมังกร, เพาะพันธุ์, ต่อสู้ และขายมังกร NFT เหล่านี้ได้ ซึ่งโปรเจกต์นี้ยังใช้อัลกอริธึมขั้นสูงและปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสร้างของสะสมมังกรด้วยกราฟิกคุณภาพสูง ทางเกมพยายามที่จะนำเสนอรูปแบบของ NFT ที่ไม่เหมือนใครโดยกำลังมองหาการพัฒนาให้เป็นมังกรเมต้าเวิร์สที่ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้เจ้าของมังกรสามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์บนอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ 
การใช้งาน DNA กับมังกรดิจิทัล
ทีมงานตั้งเป้าที่จะนำศิลปะ NFT ไปสู่ระดับใหม่โดยการฝัง DNA ของมังกรแต่ละตัวที่จะคอยกำหนดลักษณะเฉพาะของพวกมัน โดย DNA ของมังกรมีคุณลักษณะประมาณ 12,000 รายการที่มีความสามารถในการผสมพันธุ์ของยีนที่ไม่ซ้ำกันหลายพันล้านชุดเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีมังกรสองตัวที่เหมือนกัน
ยีนพื้นฐานจะมีทั้งหมด 25 ยีนแต่ละยีนก็จะมีแยกย่อยออกมาอีกถึง 16 รูปแบบที่มีสีต่างกันและถูกกำหนดให้กับมังกรแต่ละตัวโดยใช้อัลกอริธึมพิเศษตามการผสมผสานของยีนที่สร้างขึ้นระหว่างกระบวนการผสมพันธุ์ ซึ่งมังกรบนแพลตฟอร์มนี้จะมีสี่ประเภท ได้แก่ Common Dragons, Epic Dragons, Rare Dragons และ Legendary Dragons.
มังกร Common เป็นประเภทที่มีความหลากหลายมากที่สุดบนแพลตฟอร์มที่มาพร้อมกับ 15 ยีนใน DNA ของพวกมัน, มังกร Epic มาพร้อมกับ 16-19 ยีน, มังกร Rare มาพร้อมกับ 20-24 ยีน ส่วนมังกรที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและหายากที่สุดจะมาพร้อมกับยีน 25 ชุดใน DNA ของพวกมัน ทั้ง 4 ประเภทบนแพลตฟอร์นี้มีลักษณะที่แตกต่างกันซึ่งจะเป็นตัวกำหนดลักษณะที่ปรากฏขึ้นในเกมและมูลค่าบนตลาด
ภายในเกมยังมีสนามต่อสู้ของมังกรที่เรียกว่า ‘Dragon Arena’ โดยการต่อสู้ของมังกรครั้งแรกจะเกิดขึ้นที่นี่และที่น่าสนใจก็คือทางทีมงานยังได้รวมภาษามังกรที่มีเอกลักษณ์เข้ากับมาตรฐานการออกเสียงและตัวอักษรที่จะใช้บนแพลตฟอร์มนี้อีกด้วยโดยมีชื่อเรียกว่า ‘Kassis’
คอลเลคชั่นมังกรลิมิเต็ดจำนวน 10,000 ตัว
มังกรทุกตัวจะได้รับการออกแบบมาโดยเริ่มต้นจากไข่มังกร ซึ่งในคอลเลคชั่นนี้จะมีไข่มังกรจำนวน 10,000 ฟองสำหรับการ Mint เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2021 ทางค่ายเกมได้สร้างประวัติศาสตร์ในรอบแรกของการจอง CryptoDragons NFT Еggs โดยไข่จำวน 500 ชุดแรกถูกซื้อไปหมดภายในเวลาเพียง 10 วินาทีเท่านั้น โดยราคาของ Legendary และ Epic ขายในราคา 35 ETH และ 7 ETH ตามลำดับ
ภายในไข่เหล่านี้เป็นมังกรที่มีเอกลักษณ์ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยใช้ AI และมังกรในไข่เหล่านี้ถือว่าเป็น “firstborns” ทันทีที่พวกมันฟักออกมาเจ้าของจะสามารถเข้าถึง NFT สองอันได้แก่ เปลือกไข่และมังกร เจ้าของมังกรสามารถรับสิ่งจูงใจได้เพียงแค่ถือ NFT ของมังกรเนื่องจากพวกมันยังสามารถผสมพันธุ์มังกรเพื่อให้ได้ลักษณะพิเศษที่หายากอื่น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน โดยมังกรระดับ Common และ Epic สามารถผสมพันธุ์กันเพื่อให้ได้มังกรระดับ Rare แต่มังกร Legendary ไม่สามารถผสมพันธุ์ได้
เจ้าของมังกรสามารถปล่อยเช่ามังกรของตนเองให้กับผู้ใช้รายอื่นบนแพลตฟอร์มเพื่อผสมพันธุ์และสร้างคอลเลคชั่นมังกรที่มีเอกลักษณ์เฉพาะได้ โดยมังกรที่มีความเป็นเอกลักษณ์สูงจะมีมูลค่าค่อนข้างมากบนตลาด สำหรับในสังเวียน Dragon Arena ผู้ชนะการต่อสู้จะได้รับมังกรของคู่แข่งหรือ ETH นั้นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของข้อตกลงก่อนการต่อสู้
อย่างไรก็ตาม ในบรรดามังกรทั้งหมดบนแพลตฟอร์มผู้ถือมังกร Legendary มีโอกาสสร้างรายได้ที่มีแนวโน้มมากที่สุดแม้ว่าจะไม่ได้นำมันลงมาเล่นภายในเกมเพียงแค่ถือไว้เฉย ๆ ก็สามารถทำเงินได้ โดยค่ายเกมจะจ่ายเงินให้กับเจ้าของมังกร Legendary อย่างต่อเนื่องเป็น 50% ของรายได้จากการผสมพันธุ์ทั้งหมด ซึ่งจะส่งตรงไปยังกระเป๋าเงิน ETH ของผู้ที่ถือ ยิ่งระดับของการผสมพันธ์ุสูงเท่าไหร่รายได้ของเจ้าของมังกรก็จะยิ่งสูงขึ้น
